หลายคนคงเคยสังเกตเห็นน้ำที่ไหลหยดลงมาจากใต้ท้องรถเมื่อจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลานาน ลักษณะแบบนี้ถือเป็นอันตรายหรือไม่? แล้วจะแยกแยะได้อย่างไรว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นน้ำแอร์จริงหรือเปล่า?
อันที่จริงแล้วการที่มีน้ำแอร์หยดลงมาใต้ท้องรถนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ในการขับขี่ ซึ่งจะพบเห็นได้ชัดเมื่อจอดรถหลังจากขับมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง หรือหากสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมกับเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้สักพัก ก็จะทำให้มีน้ำหยดลงมาได้เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไรเลย
แต่ที่สำคัญคือ คุณต้องแน่ใจว่าน้ำที่หยดลงมานั้น เป็นน้ำทิ้งจากระบบปรับอากาศจริงๆ ไม่ใช่ของเหลวอื่นๆ ภายในเครื่องยนต์ โดยสังเกตได้จากน้ำที่หยดลงมานั้น จะต้องมีลักษณะใส ไม่มีกลิ่น คล้ายกับน้ำเปล่า และมีความเย็นเจือปนอยู่ แสดงว่าน้ำที่หยดลงมานั้นเป็นน้ำแอร์จริงๆ
แต่หากน้ำที่หยดลงมาเป็นน้ำจากหม้อน้ำหรือหม้อพักน้ำ หรือที่เรียกกันว่า "น้ำหล่อเย็น" จะมีลักษณะเป็นสีชมพูหรือสีเขียว กรณีใช้น้ำเปล่าเติมหม้อน้ำ อาจมีสนิมหรือเศษโลหะเจือปน มีกลิ่นไหม้เล็กน้อย แบบนี้แสดงว่าระบบระบายความร้อนมีปัญหาแล้ว อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดอาการโอเวอร์ฮีตได้
แต่หากน้ำที่หยดลงมามีลักษณะข้นเหนียวเป็นน้ำมัน มีสีที่ผิดแปลกไป นั่นแปลว่าเกิดการรั่วซึมที่ใดสักแห่งของเครื่องยนต์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ หรือน้ำมันเบรก เป็นต้น ทางที่ดีควรรีบนำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อหาสาเหตุและแก้ไขต่อไป
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น