หลายคนอาจเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างเกี่ยวกับรถ Demo หรือรถ Display ซึ่งมักมีราคาถูกกว่ารถป้ายแดงปกติตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท แล้วรู้หรือไม่ว่ารถทั้ง 2 ประเภทแท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่?
หากแปลความหมายกันแบบตรงตัวนั้น รถ Demo (เดโม) ก็คือรถทดลองขับของโชว์รูมแต่ละแห่งนั่นเอง ซึ่งอาจเป็นรถป้ายแดงที่ยังไม่เคยผ่านการจดทะเบียน หรือจดทะเบียนมาแล้วก็ได้ (โดยมากมักจดทะเบียนในนามนิติบุคคลตัวแทนจำหน่ายแห่งนั้นๆ) โดยรถประเภทนี้จะมีไว้ให้สำหรับลูกค้าได้ทดลองขับก่อนตัดสินใจ ทำให้เลขไมล์อาจขึ้นไปป้วนเปี้ยนอยู่หลักพันหรือหลักหมื่นต้นๆ เมื่อถึงเวลาปล่อยขาย ก็จะได้ราคาต่ำกว่ารถป้ายแดงแท้ๆ ที่ไม่เคยผ่านการใช้งาน
ส่วนรถ Display (ดิสเพลย์) ก็คือรถสำหรับจอดแสดงภายในโชว์รูมและจุดขายต่างๆ ให้ผู้สนใจได้ทดลองนั่ง ลองจับก่อนตัดสินใจ โดยทั่วไปแล้วรถ Display มักมีเลขไมล์น้อยกว่ารถ Demo เนื่องจากถูกจอดไว้เฉยๆ เสียมากกว่า อาจจะขับอยู่ภายในโชว์รูม หรือขับไปจอดไว้ยังจุดขายนอกสถานที่ (เช่น ห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การค้า ฯลฯ) จึงมีสภาพโดยรวมดีกว่ารถ Demo และมีราคาสูงกว่า
นอกจากนี้ยังมีรถอีกประเภทหนึ่งที่มักนำมาใช้เรียกอยู่บ่อยๆ ก็คือ “รถผู้บริหาร” ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรถที่เจ้าของโชว์รูมใช้งานเอง อาจไม่เคยจดทะเบียนหรือผ่านการจดทะเบียนมาแล้วก็ได้เช่นกัน ซึ่งรถประเภทนี้ว่ากันตามตรงก็คือรถมือสองนั่นแหละ เพียงแต่ศูนย์บริการนำมาวางจำหน่ายเอง
ส่วนรถเหล่านี้จะมีราคาต่ำกว่ารถใหม่เอี่ยมขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับเลขไมล์และสภาพของแต่ละคัน โดยหากเลขไมล์ยังค่อนข้างต่ำ (วิ่งไปหลักร้อยกิโลเมตร หรือขึ้นหลักพันนิดๆ) ก็จะมีราคาถูกกว่ารถใหม่ไม่มากนัก แต่หากผ่านการใช้งานมาเยอะ ก็จะมีราคาถูกลงไปอีก ซึ่งโดยรวมแล้วจะมีราคาถูกกว่ารถใหม่ตั้งแต่หลักหมื่นบาท ไปจนถึงหลักแสนก็มี
อย่างไรก็ดี จุดที่ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการซื้อรถ Demo และรถ Display อยู่ที่ระยะเวลาการรับประกันคุณภาพ (ส่วนมากจะให้การรับประกันที่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร) เนื่องจากรถยนต์ใหม่ทั่วไปจะเริ่มรับประกันตั้งแต่วันออกรถหรือก่อนหน้าเพียงไม่กี่วัน แต่รถ Demo และ Display อาจเริ่มนับประกันตั้งแต่ที่ศูนย์บริการนำรถมาใช้ จึงทำให้ระยะเวลาการรับประกันในมือเจ้าของรถสั้นลงนั่นเอง
Cr.sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น