จากสภาพอากาศที่มีฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกระลอกในตอนนี้ หลายๆ คนคงได้ซื้อเครื่องฟอกอากาศไว้ที่บ้านกันบ้างแล้ว คราวนี้มาถึงเครื่องฟอกอากาศในรถบ้าง ถึงแม้ว่าการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในรถจะเหมือนกับเครื่องฟอกอากาศในบ้าน แต่การเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถก็มีข้อแตกต่างอยู่บ้าง ในบทความนี้เรามีข้อแนะนำในการเลือกเครื่องฟอกอากาศในรถมาฝากกัน
ชนิดของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศในรถมีอยู่หลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบปล่อยไออนประจุลบมาเพื่อกำจัดฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือเชื้อรา แบบที่ใช้แผ่นกรอง Activated Carbon (แอคติเวทเต็ดคาร์บอน) ที่มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับควัน และก๊าซบางชนิด แบบผลิตโอโซน หรือแบบที่ช่วยปรับอากาศด้วยกลิ่นเฉยๆ แต่ถ้าต้องการกำจัดฝุ่น PM 2.5 ควรเลือกแบบที่ใช้แผ่นกรอง HEPA ซึ่งมีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงขนาด 0.3 ไมครอน
ขนาดของเครื่องฟอกอากาศ
เนื่องจากพื้นที่ในรถมีจำกัด จึงต้องหารุ่นที่เหมาะกับรูปแบบดีไซน์ของห้องโดยสารเพื่อความสะดวกในการใช้งาน และความสวยงาม เช่น หากเป็นรถอีโคคาร์ขนาดเล็ก ควรเลือกเครื่องฟอกที่มีรูปทรงคล้ายแก้ว ในขณะที่รถที่มีพื้นที่บริเวณคอนโซลกลางรถกว้าง ก็อาจจะเลือกเครื่องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ หรือบางรุ่นก็สามารถรัดไว้ด้านหลังของผนักพิงศรีษะได้
ระดับเสียงขณะทำงาน
เนื่องจากพื้นที่ในห้องโดยสารมีขนาดเล็ก เสียงการทำงานที่ดังของเครื่องฟอกอากาศอาจทำลายสมาธิ หรือสร้างความรำคาญได้ ระดับเสียงขณะการทำงานของเครื่องจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา
การใช้ไฟ
เครื่องฟอกอากาศในรถส่วนใหญ่จำเป็นต้องชาร์จไฟจากช่องจุดบุหรี่ หรือจากช่องเสียบ USB ขณะใช้งาน ซึ่งอาจส่งผลต่อตำแหน่งที่วาง และการเก็บสายไฟ บางรุ่นเป็นแบบไร้สายสามารถชาร์จไฟได้เหมาะกับคนที่ไม่ต้องใช้เวลาอยู่บนรถหลายชั่วโมง และบางรุ่นยังสามารถใช้เป็นเหมือนพาวเวอร์แบงค์สำหรับชาร์จมือถือได้อีกด้วย
Cr.sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น