วิธีรับมือกับคู่กรณีหัวร้อน เมื่อเกิดเหตุรถชนให้เรื่องจบแบบแฮปปี้ ไม่มีภาคต่อ
1. ตั้งสติไว้ก่อน
ไม่ว่ารถจะพังแค่ไหน หรือคู่กรณีเริ่มมีอาการหัวร้อน แต่คุณห้ามโมโหจนขาดสติ เพราะอาจทำให้คุณลงมือกระทำอะไรแบบไม่คิดจนส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย คุณควรดึงสติตัวเอง อาจลองนับ 1-10 ในใจแบบช้าๆ ค่อยๆ นับ จะทำให้จิตใจของคุณนั้นจดจ่ออยู่กับการนับเลข และมีสติมากยิ่งขึ้นแล้วค่อยๆ แก้ไขปัญหาตรงหน้าอย่างมีสติให้มากที่สุด อย่าใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาโดยเด็ดขาด
2. เริ่มทะเลาะ ให้แยกตัวออกมา
หากมีการถกเถียงกันขึ้นมาหลังเกิดเหตุ แนะนำให้พยายามแยกตัวออกมาจากบริเวณนั้นทันที เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองและลดอารมณ์ของฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เพิ่มขึ้น เพราะหากฝืนทะเลาะกันด้วยอารมณ์ร้อนกันทั้งคู่ จะยิ่งทำให้เหตุการณ์บานปลายไปกันใหญ่
3. โทรหาบริษัทประกัน หรือ คนรู้จัก
บุคคลที่ช่วยเคลียร์คู่กรณีให้คุณได้ดีที่สุดคือบริษัทประกัน ดังนั้นหลังเกิดเหตุให้ติดต่อประกันที่รถคุณทำไว้ให้เร็วที่สุด หากตอนนั้นอารมณ์คุณเริ่มร้อนจนอยากหาที่ระบายกับใครสักคน คุณก็อาจโทรหาคนรู้จักที่ไว้ใจเพื่อขอคำปรึกษา ซึ่งการพูดคุยกับบุคคลภายนอกจะช่วยดึงสติให้คลายอารมณ์หัวร้อนได้ดีกว่าไประบายใส่คู่กรณีให้เกิดปัญหาเพิ่ม เพราะหากเกิดการทะเลาะวิวาทกัน ทุบตีชกต่อยกัน ต้องมาจ่ายค่าประกันตัวเองอีกด้วยนะ
4. นึกถึงคนที่คุณรัก
การดึงสติให้กลับมาอีกวิธีคือ การนึกถึงคนที่คุณรัก ซึ่งอาจจะนั่งมาด้วยในรถ หรือรอคุณอยู่ที่บ้าน ที่กำลังเป็นห่วงคุณและรอคุณกลับไปหาอย่างปลอดภัย ซึ่งคุณสามารถช่วยพวกเขาได้ ด้วยการใจเย็นและปัญหาเฉพาะหน้าด้วยความรอบคอบที่สุด
5. ทำหูทวนลม ไม่ตอบโต้
การไม่โต้ตอบไม่ได้หมายถึงการยอมรับผิด แต่เป็นการรอเวลาให้เจ้าหน้าที่มาช่วยจัดการปัญหา และลดความรุนแรงของการทะเลาะกันระหว่าง 2 ฝ่าย แต่การทำหูทวนลมก็ต้องระมัดระวังการถูกกว่าหาว่าคุณกำลังกวนประสาทคู่กรณี ทางที่ดีคือการพูดจาอย่างสุภาพ หรือเดินเลี่ยงออกมาถ้าเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามหัวร้อนหนักมาก
6. พูดขอโทษไปก่อน
การอ่อนน้อมถ่อมตนจะช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความเห็นใจและลดความหัวร้อนลงได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิด หรือฝ่ายถูก การเลือกที่จะพูดขอโทษเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเองทั้งนั้น มาคุยกันดีๆ ด้วยเหตุผลดีกว่า
Cr.sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น