วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2565

เคล็ดลับการใช้งานกุญแจ Smart Key และปุ่ม Push Start อย่างถูกวิธี

 


     รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันล้วนแต่ถูกติดตั้งกุญแจแบบ Smart Key พร้อมกับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start มาให้กันแทบทั้งนั้น จึงขอนำเคล็ดลับดีๆ และเทคนิกการใช้ระบบกุญแจประเภทนี้มาฝากกัน


     หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า การใช้งานกุญแจแบบ Smart Key หากต้องการปลดล็อกเพื่อเข้าไปในรถ ก็เพียงแต่กดปุ่มบริเวณมือเปิดด้านนอก หรือรถบางรุ่นอาจเพียงแค่สัมผัสบริเวณด้านในของที่เปิดประตูเท่านั้น ตัวรถก็จะปลดล็อกให้ในทันที เพียงแต่ต้องมีกุญแจอยู่กับตัว และอยู่ห่างจากตัวรถในระยะไม่เกิน 1-1.5 เมตร


     ส่วนการสตาร์ทเครื่องยนต์ก็เพียงแต่เหยียบแป้นเบรกค้างไว้ จากนั้นกดปุ่ม Push Start 1 ครั้ง เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นโดยอัตโนมัติ


นอกเหนือจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ยังทำอะไรได้อีกบ้าง?


     กรณีต้องการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถ แต่ไม่ต้องการติดเครื่องยนต์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแค่เก็บกุญแจไว้กับตัว จากนั้นกดปุ่ม Push Start 1 ครั้ง โดยไม่ต้องเหยียบเบรก ตัวรถก็จะเข้าสู่โหมด ACC ก็จะสามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าบางอย่างได้โดยไม่จำเป็นต้องติดเครื่องยนต์ เช่น เปิดวิทยุ, เปิดระบบนำทาง ฯลฯ (เปรียบเหมือนการบิดกุญแจ 1 ตำแหน่ง จาก OFF ไปยัง ACC)


     หากกดปุ่ม Push Start อีก 1 ครั้ง ตัวรถก็จะเข้าสู่โหมด ON (เปรียบเหมือนการบิดกุญแจอีก 1 ตำแหน่ง จาก ACC ไปยัง ON) ซึ่งโหมดนี้จะช่วยให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถใช้ได้เกือบทั้งหมด ทั้งกระจกไฟฟ้า, กระจกมองข้าง, พัดลมแอร์ ฯลฯ แต่หากกดปุ่ม Push Start อีกครั้ง ตัวรถจะกลับไปสู่โหมด OFF โดยทันที


     ซึ่งกรณีอยู่ในโหมด ACC หรือ ON เจ้าของรถจะไม่สามารถล็อกประตูรถได้ เพราะถือว่าตัวรถยังคงทำงานอยู่ ดังนั้น หากพบว่าปุ่มล็อกประตูด้านนอกไม่ทำงานตามปกติแล้วล่ะก็ ลองเช็กเบื้องต้นดูว่าตัวรถอยู่ในโหมด ACC หรือ ON หรือไม่

ทั้งนี้ การสตาร์ทเครื่องยนต์สามารถทำได้ไม่ว่าจะอยู่ในโหมด OFF, ACC หรือ ON ก็ตาม

หากกุญแจ Smart Key แบตหมดต้องทำอย่างไร?


     โดยปกติหากแบตเตอรี่กุญแจ Smart Key ใกล้หมด หน้าจอของตัวรถก็จะแสดงข้อความว่าแบตเตอรี่กุญแจอ่อน ให้รีบเปลี่ยนใหม่โดยทันที แต่หากละเลยจนแบตเตอรี่หมดขึ้นมาจริงๆ จะทำให้กุญแจไม่สามารถสื่อสารกับตัวรถได้ ส่งผลให้ไม่สามารถล็อก-ปลดล็อกประตู รวมถึงไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้


     วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น ให้ถอดกุญแจดอกเล็กที่ซ่อนอยู่ในกุญแจ Smart Key ออก จากนั้นใช้กุญแจในการไขประตูเพื่อเข้าไปยังตัวรถ ระหว่างนี้สัญญาณกันขโมยอาจดังขึ้น ให้รีบนำกุญแจ Smart Key ไปแตะบริเวณปุ่ม Push Start และทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ สัญญาณกันขโมยจะดับลงโดยอัตโนมัติ


     ทั้งนี้ รถบางรุ่นอาจติดตั้งเซ็นเซอร์รับสัญญาณกุญแจไว้ตำแหน่งที่แตกต่างกันไป ควรศึกษาจากคู่มือรถแต่ละคันควบคู่กันไปด้วย


กดปุ่ม Push Start ขณะรถวิ่งจะเกิดอะไรขึ้น


     โดยปกติแล้วปุ่ม Push Start จะถูกติดตั้งไว้ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้สะดวกสำหรับผู้ขับขี่เท่านั้น แต่หากเผลอกดปุ่มในขณะรถกำลังเคลื่อนที่จริงๆ ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะการกดแล้วรีบปล่อยทันทีจะไม่ทำให้เครื่องยนต์ดับลงอย่างแน่นอน


     แต่กรณีผู้ขับขี่กดปุ่ม Push Start ค้างไว้ขณะรถวิ่ง (ประมาณ 2-3 วินาที) จะเป็นการสั่งการให้ดับเครื่องยนต์แม้ในขณะรถกำลังเคลื่อนที่ก็ตาม เพราะถือเป็นเจตนาของผู้ขับขี่ที่อาจประสบเหตุฉุกเฉินบางอย่าง และมีความจเป็นต้องดับเครื่องยนต์จริงๆ นั่นเอง


ที่มา:sanook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น