ชาร์จแบตฯ มือถือในรถอย่างไรให้เต็มไวทันใจ

      หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมการชาร์จการแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนผ่านช่องเสียบ USB ภายในรถถึงช้านัก แล้วจะมีวิธีการชาร์จอย่างไรให้เต็มเร็วยิ่งขึ้นกันบ้างนะ?

     หากเป็นรถยุคแรกๆ ที่มีพอร์ต USB มาให้ด้วยนั้น ส่วนมากจะถูกออกแบบให้เป็นช่องเชื่อมต่อ USB Stick หรือ iPod เพื่อฟังเพลงผ่านเครื่องเสียงของตัวรถเท่านั้น ซึ่งกระแสไฟที่ปล่อยออกมาจะอยู่ที่ประมาณ 0.5A เท่านั้น (เทียบกับช่อง USB แบบ Quick charge ในปัจจุบันปล่อยกระแสไฟอยู่ที่ 3.0A) ดังนั้น การชาร์จมือถือด้วยวิธีนี้แทบจะไม่ทำให้ปริมาณไฟเพิ่มขึ้นเลย โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่มีขนาดใหญ่แบตเตอรี่ค่อนข้างใหญ่ ซ้ำร้ายปริมาณแบตเตอรี่อาจค่อยๆ ลดด้วยซ้ำไป

     ขณะที่รถรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันเริ่มติดตั้งช่อง USB สำหรับชาร์จไฟโดยเฉพาะมาให้แล้ว ซึ่งสามารถปล่อยกระแสไฟได้ 1.5A - 2.1A ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ จึงชาร์จสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่หากรถคุณไม่มีช่อง USB สำหรับชาร์จไฟติดตั้งมาให้ล่ะก็ สามารถเลือกซื้อที่ชาร์จในรถ (USB Car Charger) มาใช้งานได้ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายในตลาด ทางที่ดีควรเลือกรุ่นที่มีสัญลักษณ์ QC 3.0 เพื่อให้สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ

     ส่วนความเชื่อที่ว่าการชาร์จมือถือในรถจะทำให้แบตเตอรี่ของมือถือเสื่อมไวนั้น ปัจจุบันแทบจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะรถส่วนใหญ่ที่วิ่งกันในปัจจุบันมีการจัดการระบบไฟเป็นอย่างดี สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถได้อย่างคงที่และเสถียร โดยเฉพาะรถยุโรปที่มีแบตเตอรี่สำรอง (Auxiliary Battery) สำหรับจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ 

     อย่างไรก็ดี ที่ชาร์จในรถควรเลือกซื้อเฉพาะยี่ห้อที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ มีระบบป้องกันการลัดวงจรอย่างดี ไม่เน้นราคาถูกจนเกินไป จะได้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสมาร์ทโฟนสุดรักและระบบไฟภายในรถนั่นเอง

ที่มา:sanook