วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

จำให้แม่น! วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถจมน้ำ เพิ่มโอกาสรอดได้จริง

 อุบัติเหตุรถยนต์ตกน้ำมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งแม้ว่าผู้โดยสารจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกเหมือนอุบัติเหตุรูปแบบอื่นๆ แต่ผู้โดยสารภายในรถก็มีความเสี่ยงต่อการจมน้ำจนกระทั่งขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตได้ 

     จึงได้รวบรวมแนวทางการเอาตัวรอดในกรณีรถตกน้ำ เราจะมีวิธีไหนบ้างเพื่อหนีออกจากตัวรถอย่างปลอดภัย
1.เปิดประตู-ลดกระจกโดยเร็วที่สุด
      สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากประสบอุบัติเหตุรถตกน้ำ คือ ต้องตั้งสติให้มั่น อย่าตื่นตระหนก เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนั้น ยิ่งปล่อยให้เวลาเนิ่นนานเท่าไหร่ โอกาสรอดยิ่งน้อยลง จากนั้นให้รีบปลดเข็มขัดนิรภัยทันที เพื่อความสะดวกคล่องตัว
      สิ่งต่อมาที่ต้องทำหลังจากได้สติ คือ "การเปิดโอกาสรอด" ซึ่งในที่นี้หมายถึง การเปิดประตูและหน้าต่างทันทีที่มีโอกาส หากตัวรถตกน้ำในลักษณะล้อชี้ลง ไม่พลิกหงายเก๋งจนล้อชี้ฟ้า ให้รีบกดกระจกหน้าต่างทั้ง 4 บานลงทันที เนื่องจากระบบไฟของตัวรถจะยังคงมีไฟจากแบตเตอรี่เลี้ยงเอาไว้แม้ว่ารถจะดับก็ตาม จากนั้นจึงพาตัวเองออกมาจากรถอย่างปลอดภัย ซึ่งระหว่างนั้นอาจมีน้ำจำนวนมากทะลักเข้ามาในตัวรถอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีโอกาสรอดสูงเช่นกัน

2.ใช้ของแข็งทุบ-งัดกระจก
      ในกรณีที่รถจมลงใต้น้ำอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถเปิดกระจกหน้าต่างได้ทัน วิธีหนึ่งที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล คือ การถอดพนักพิงศีรษะออก แล้วนำด้านที่เป็นก้านเหล็กเสียบเข้าไปบริเวณซอกระหว่างประตูและกระจกหน้าต่าง จากนั้นให้ออกแรงงัดจนกระทั่งกระจกแตกออก จึงค่อยผลักกระจกให้หลุด ซึ่งวิธีนี้ต้องเน้นว่า รถแทบทุกคันในบ้านเราล้วนแต่ติดฟิล์มกรองแสง ซึ่งเป็นตัวยึดรั้งให้กระจกหลุดได้ยากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้แรงผลักพอสมควรครับ
ความเชื่อที่สืบต่อกันมาอาจไม่จริงเสมอไป
      หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า หากรถตกน้ำ ให้ตั้งสติอยู่ภายในรถนิ่งๆ รอให้น้ำเข้ารถจนเต็ม แล้วจึงเปิดประตูออก เนื่องจากแรงดันน้ำมหาศาลภายนอก จะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ถ้าน้ำภายในรถยังไม่เต็ม ซึ่งข้อความดังกล่าวแม้ว่าจะดูเป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่มีการยืนยันว่าประตูจะเปิดออกได้โดยง่ายเมื่อมีน้ำเต็มห้องโดยสาร และกว่าที่จะรอให้น้ำเต็มห้องโดยสารได้นั้น ผู้โดยสารภายในรถก็มีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะขาดอากาศหายใจ ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือต้องรีบลงมือเอาตัวรอดทันทีที่มีโอกาสครับ
ที่มา:sanook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น