วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

5 อุปกรณ์ที่ควรมีติดรถไว้เผื่อยามฉุกเฉิน รับรองได้ใช้จริง


   การเดินทางด้วยรถยนต์อาจต้องพบเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างไม่ทราบล่วงหน้าได้ ขอแนะนำ 5 อุปกรณ์ที่ควรมีติดรถไว้ยามฉุกเฉิน ซึ่งจะมีประโยชน์ขึ้นมาทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
1.สำเนาทะเบียนรถและกรมธรรม์ประกันรถยนต์
     สำเนาทะเบียนรถและกรมธรรม์ประกันภัย เป็น 2 สิ่งจำเป็นที่ควรเก็บไว้ในรถอยู่เสมอ เผื่อกรณีถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ หรือเกิดอุบัติเหตุรถชน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคได้อย่างราบรื่น 
ที่สำคัญไม่ควรเก็บทะเบียนรถเล่มจริงไว้ในรถเป็นอันขาด ควรเก็บไว้เฉพาะสำเนาเท่านั้น เพราะหากรถหายขึ้นมา จะได้ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป
103
2.ชุดปั๊มลมและอุดยางรั่วฉุกเฉิน
     รถส่วนมากจะถูกติดตั้งยางฉุกเฉินมาให้ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเปลี่ยนยางเป็น โดยเฉพาะคุณผู้หญิงหุ่นบางร่างเล็ก แม้ว่าจะพอมีความรู้ในการเปลี่ยนยางอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำได้สำเร็จเพียงคนเดียว
     ดังนั้น จึงควรหาซื้อชุดปั๊มลมและอุดยางรั่วฉุกเฉินเก็บไว้ในรถ ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถหลายรุ่นที่ไม่มียางอะไหล่มาให้ ซึ่งชุดปั๊มลมพร้อมอุดรอยรั่วถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย คุณผู้หญิงก็สามารถทำได้ แต่มีข้อจำกัดว่าจะใช้ได้ในกรณียางรั่วเป็นรูเล็กๆ เท่านั้น หากยางเกิดฉีกขาดจะไม่สามารถอุดได้
104
3.ไฟฉาย
     ถือเป็นอุปกรณ์เบสิคที่หลายคนมองข้าม แต่มีประโยชน์ในยามฉุกเฉินมาก เช่น กรณีต้องเปิดฝากระโปรงหน้ากลางดึกในบริเวณที่ไม่มีไฟ ไฟฉายก็จะช่วยให้มองเห็นห้องเครื่องยนต์ได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนคว้าไอโฟนเครื่องละหลายหมื่นมาส่องสว่างแทน
     นอกจากนี้ ไฟฉายยังมีประโยชน์ในกรณีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางยามค่ำคืน สามารถใช้เป็นสัญญาณไฟเตือนรถคันหลังให้ชะลอความเร็วลงได้ด้วย
100
4.ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง
     ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงมักถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยุโรปแทบทุกคัน ซึ่งกรณีรถเสียระหว่างทางยามดึก การใช้ป้ายสะท้อนแสงจะช่วยให้ผู้ขับขี่คนอื่นมองเห็นได้จากระยะไกลมากขึ้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับทุกฝ่าย และยังมีประสิทธิภาพกว่าการหักกิ่งไม้มากองไว้กลางถนนกว่าเป็นไหนๆ
102
5.สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์
     ในยามปกติคงไม่มีใครคิดถึงสายแบตเตอรี่รถยนต์ แต่ในยามฉุกเฉิน หากมีคนเร่ขายเส้นละ 1 พันก็คงยอมจ่าย เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ได้กลับบ้านเป็นแน่ ทางที่ดีควรมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดรถไว้ เผื่อวันใดวันหนึ่งเกิดลืมปิดไฟหน้ารถ กลับมาอีกทีแบตเตอรี่หมด ก็ยังมองหารถคันอื่นช่วยจั๊มพ์สตาร์ทได้ทันทีโดยไม่ต้องถามว่า "พี่... มีสายพ่วงแบตฯ มาด้วยมั๊ย?"
ที่มา:sanook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น