วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ไม่เสียรู้! รถไดสตาร์ทพัง หรือแค่ถ่านเสื่อม


     เรื่องอาการเสียของระบบชิ้นส่วนรถยนต์หากเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วก็ถึงวาระต้อง “ซ่อม” หรือ “เปลี่ยน” ตามอายุการใช้งาน เมื่อรถคุณเริ่มเสื่อมสภาพก็ต้องฟื้นฟูกันหน่อยเพื่อให้รถที่คุณรักใช้งาน ได้อีกยาวนาน และหากรถเกิดปัญหาก็ต้องเลือกช่างที่ไว้ใจได้ตีราคาค่าซ่อมสมเหตุสมผลไม่เอา เปรียบผู้บริโภค เพราะบางอย่างแค่เปลี่ยนชิ้นส่วนเล็กๆก็กลับมาใช้งานได้ปกติดังเดิมบางอย่าง ราคาแค่หลักร้อยบาทด้วยซ้ำไป
     สำหรับรถที่ใช้งานมาได้สักระยะ ไดสตาร์ท หรือ มอเตอร์สตาร์ท เป็นอีกชิ้นส่วนที่มักเกิดปัญหา อาการรถสตาร์ทติดยาก หรือรถสตาร์ทไม่ติด บางครั้งอาจไม่ใช่เพราะแบตเตอรี่รถยนต์อาจเกิดจากไดสตาร์ทก็เป็นได้ ต้องให้ช่างค่อยๆไล่หาสาเหตุ

เช็กปัญหาไดสตาร์ทที่พบบ่อย
    1. ไดสตาร์ทหมุนแต่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ให้ตรวจสอบ ชุดออโตเมติก ชุดเฟือง และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
    2. ไดสตาร์ทหมุนด้วยรอบปกติ แต่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ และสตาร์ทติดยาก อาการมักเกิดปัญหาตอนเช้า ให้ตรวจสอบที่ระบบปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบไฟจุดระเบิด
    3. ไดสตาร์ทหมุนอืดหรือไม่หมุนเลย ให้ตรวจสอบแรงดันไฟที่แบตเตอรี่หากแรงดันปกติแสดงว่า “แปรงถ่าน” (Carbon Brush) หมดอายุซึ่งปัญหานี้มักเป็นกันบ่อยถ้าไปทำอู่นอกก็ให้ช่างซื้อแปรงถ่านมา เปลี่ยนให้ใหม่ราคาประมาณหลักร้อย แต่ถ้าเข้าศูนย์บริการส่วนมากจะไม่ซ่อมให้ต้องเบิกของใหม่เท่านั้น เพราะศูนย์บริการจะไม่มีนโยบายซ่อม ราคาก็จะแพงขึ้นตามยี้ห้อรถที่คุณใช้
     สำหรับไดสตาร์ทที่บอกว่าพัง อาจจะเป็นแค่แปรงถ่านหมด ซื้อมาเปลี่ยนใหม่ก็ใช้ได้อีกนานราคาไม่แพง ไม่ต้องเสียเงินหลายพันเปลี่ยนไดสตาร์ทใหม่ อาการแบบนี้ช่างที่มีความชำนาญที่สุดคือช่างซ่อมไดนาโมแก้ไขได้ไม่ยาก

วิธีบำรุงรักษาไดสตาร์ท
    1. ขณะที่บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วควรปล่อยมือทันที ห้ามบิดแช่ไว้เพราะจะทำให้ไดสตาร์ทไหม้
    2. ไม่ควรมีคราบน้ำมันและฝุ่นละออง เกาะเคลือบอยู่ที่ตัวไดสตาร์ท เพราะอาจจะทำให้สิ่งสกปรก เข้าไดสตาร์ท จนแปรงถ่านสกปรก ไม่หมุนหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
    3. ห้ามไม่ให้มีน้ำเข้าไดสตาร์ท เพราะจะทำให้แปรงถ่านขัดตัว ไดสตาร์ทไม่หมุน อุปกรณ์ภายในเป็นสนิมและเสียหายได้
     ทั้งหมดนี้ผู้อ่านน่าจะพอทราบสาเหตุเบื้องต้นอาการไดสตาร์ทเสีย ปัญหาอาจแค่แปรงถ่านหมดอายุเท่านั้น ต้องให้ช่างผู้ชำนาญเช็กดูให้ดีและควรมีการตีราคาก่อนลงมือซ่อมทุกครั้ง
ที่มา:sanook

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วิธีขจัดคราบน้ำ-คราบหินปูน บนกระจกรถยนต์

   

 บางคนอาจคิดว่า ปัญหาคราบน้ำเกาะติดแน่นบนกระจก เป็นเพียงปัญหาเล็กๆ แค่ล้างรถ และเช็ดออกก็พอแล้ว
     แต่คราบน้ำที่ว่านี้ บางครั้งมันอาจมี คราบหินปูน ปนเปื้อนมาด้วย ทำให้เมื่อจอดรถทิ้งไว้แล้วโดนแดดเผานานๆ น้ำที่มีอยู่ก็จะระเหยไป หลงเหลือไว้เพียงคราบหินปูนที่เกาะติดแน่นทนนาน ต่อให้ใช้ใบปัดน้ำฝนก็ปัดไม่ออก หรือแม้กระทั่งนำรถเข้าคาร์แคร์เพื่อไปขัดเคลือบสี คราบหินปูนก็ยังไม่หลุดออกไป เห็นแล้วขัดหูขัดตาสุดๆ แถมมันยังทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลงอีกด้วย
     ซึ่งวิธีที่จะขจัดคราบน้ำ-คราบหินปูนบนกระจกให้หายไป และได้ผล มีอยู่ดังนี้
     1. ในกรณีที่คราบยังไม่ติดแน่นมาก หรือเพิ่งเกิดคราบ ให้ใช้น้ำส้มสายชูหยดใส่สำลี หรือผ้าสะอาด แล้วค่อยๆ ขัด-เช็ดทำความสะอาด
     2. ในกรณีที่คราบติดแน่นมาก ติดลึก และฝังแน่น ฯลฯ ลองใช้วิธีแรกแล้วก็ไม่ออก ให้เปลี่ยนมาใช้กรดเกลือ หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ ที่มีส่วนผสมของกรดเกลืออย่างน้อย 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ (อย่าให้เกินนี้) และควรสวมถุงมือยางป้องกันในการทำความสะอาดด้วย นอกจากนี้ควรระวังอย่าให้เข้าตา และอย่าให้น้ำยาล้างห้องน้ำสัมผัสกับตัวรถ ขอบยาง และส่วนอื่นๆ ของรถยนต์เด็ดขาด เพราะมันอาจไปกัดกร่อน และสร้างความเสียหายให้แก่รถยนต์ของคุณได้


     (หากเจอคราบที่ติดแน่นมากจริงๆ ให้ใช้ใบมีดโกนค่อยๆ ขูดคราบหินปูนออกมาก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้น้ำยาล้างห้องน้ำขัด-เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง)
     สุดท้ายนี้ หากไม่มั่นใจ หรือกลัวใช้น้ำยาล้างห้องน้ำแล้วจะโดนส่วนอื่นๆ ของรถยนต์ ให้ไปหาซื้อน้ำยาขจัดคราบน้ำบนกระจกรถโดยเฉพาะมาใช้งานแทน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ก็มีขายกันเยอะแยะ นอกจากนี้คุณควรเคลือบกระจกหลังทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อจะได้ป้องกันการเกิดคราบน้ำ-คราบหินปูนในครั้งต่อไปนั่นเอง
ที่มา:sanook

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

แต่งรถต้องไม่กาก! "ไฟไอติม" มีความผิดตามกฎหมายปรับอ่วม 2,000 บาท

  

   ไฟไอติม หรือไฟหรี่ที่มีลักษณะเป็นสีฟ้าผิดแปลกไปจากเดิม แม้ไม่ได้ฆ่าใคร แต่มีความผิดทางกฎหมาย มีโทษปรับถึง 2,000 บาท
     บรรดารถแต่งในปัจจุบันนิยมติดตั้งไฟส่องสว่างที่เรืองแสงออกมาเป็นสีฟ้า ซึ่งบ้างก็อ้างว่าเป็นสัญลักษณ์ของรถแต่งที่ต้องมีไว้ แถมบางคนถึงขั้นกับกล่าวว่าไฟลักษณะนี้ไม่ได้ไปทำร้ายใคร เพราะมันก็แค่หลอดไฟดวงหนึ่งเท่านั้นเอง
     ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ไฟสีฟ้าอาจทำให้รู้สึกปวดหัวหากจ้องเป็นระยะเวลานานๆ เพราะแสงสีฟ้าสามารถทะลุทะลวงได้ถึงจอประสาทตา ทำให้สามารถทำลายจอประสาทตาได้มากกว่าแสงสีอื่นๆ (จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีฟีเจอร์บนสมาร์ทโฟนที่สามารถกรองแสงสีฟ้ายามค่ำคืน หรือฟิล์มกันรอยที่มีคุณสมบัติกรองแสงสีฟ้าได้)
02

     ในด้านกฎหมาย การดัดแปลงไฟท้ายเป็นสีอื่นนอกจากสีแดงและสีเหลืองอำพัน มีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
     นอกจากนั้น การติดตั้งไฟเบรกแบบกะพริบก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ว่าโคมไฟหยุดที่ติดตั้งด้านท้าย จะต้องเป็นแสงสีแดงสม่ำเสมอคงที่ ไม่กะพริบเท่านั้น
ที่มา:sanook

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วิธีจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ง่ายๆ ไม่ถึง 5 นาที

   

  ปัจจุบันผู้ที่ต้องการจองหมายเลขทะเบียน สามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกได้ ซึ่งวิธีการจองก็ง่ายดาย เพียง 5 นาทีก็เสร็จแล้ว
     ประเภทรถที่สามารถทำการจองเลขทะเบียนออนไลน์ ได้แก่ รถเก๋ง, รถกระบะ 4 ประตู, รถกระบะ และรถตู้ โดยจะเปิดบริการจองเลขตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น. และสามารถตรวจสอบตารางจองเลขได้ที่ปุ่ม "ตารางเปิดรับจองเลข และ หลักเกณฑ์การจองเลข" ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน
     ในกรณีรถใหม่ จะต้องได้รับรถยนต์แล้วจึงจะจองเลขทะเบียนได้
     ในกรณีรถจดทะเบียนแล้ว จะต้องเป็นรถที่จดทะเบียนกรุงเทพมหานคร และสถานะปกติเท่านั้น

เงื่อนไขการจองทะเบียนรถยนต์
     1.สามารถจองได้ครั้งละ 1 หมายเลข และสามารถใส่ใหม่จนกว่าจะจองได้
     2.สามารถตรวจสอบวันจดทะเบียนได้ที่ตารางจองเลข "ปัจจุบันจดทะเบียนถึงเลข" หากถึงเลขทะเบียนและกลุ่มหมวดที่ทำการจองไว้แล้ว ก็สามารถจดทะเบียนได้ แต่ต้องจดทะเบียนก่อนวันที่กำหนด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว สิทธิในหมายเลขจะตกไป
     3.เมื่อจองเลขทะเบียนได้แล้ว จะสามารถจองเลขทะเบียนได้อีกครั้งภายหลังจาก 3 เดือน
     4.จะต้องจดทะเบียนรถยนต์ด้วยชื่อที่จองได้เท่านั้น ไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเป็นชื่อผู้อื่นได้ และรถที่นำมาจดทะเบียนจะต้องมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองเป็นชื่อเดียวกับที่จองได้
     5.ผู้ถือสัญชาติไทย จะต้องระบุเลขบัตรประชาชนในการจองเท่านั้น
     6.หากชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ไม่ตรงตามบัตรประชาชน จะถือว่าไม่ใช่บุคคลเดียวกัน ไม่สามารถนำเลขไปจดทะเบียนได้
     7.คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง (1 IP Address) สามารถจองได้เลขเดียวในวันนั้นๆ
     ทั้งนี้ หมายเลขสวยสำหรับการประมูลจำนวน 301 หมายเลขจะไม่สามารถจองได้

ก่อนเริ่มทำการจองควรเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้ให้พร้อม
     1.เลขบัตรประชาชน หรือทะเบียนการค้า หรือเลขหนังสือเดินทาง
     2.หมายเลขตัวถังรถ
ขั้นตอนการจองเลขทะเบียน มีดังนี้
     1.เข้าไปยังเว็บไซต์ http://www.tabienrod.com จากนั้นเลือกปุ่ม "จองเลขทะเบียนรถ"
202


     3.เลือกปุ่ม "เข้าระบบจองเลขทะเบียน"
203

     4.อ่านหลักเกณฑ์การจองเลขทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ตให้รอบคอบ แล้วจึงกดปุ่ม "ยอมรับหลักเกณฑ์"
200


     5.เลือกประเภทรถที่จะทำการจอง ระบบจะแสดงข้อมูลชุดหมายเลขที่จองได้ในขณะนั้น
206

     6.กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย แล้วใส่เลขทะเบียนที่ต้องการ
207

     7.เมื่อจองทะเบียนสำเร็จ จะปรากฏดังตัวอย่างในภาพ
03
     จากนั้นให้รอจนถึงวันเลขเปิดจองตามตารางที่จองไว้ จึงจะสามารถทำเรื่องจดทะเบียนได้ภายใน 60 วัน นับจากกำหนดให้จดทะเบียน
ที่มา:sanook

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

5 พฤติกรรมอันตรายของผู้หญิงขณะขับรถ


     คุณผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะสันทัดเรื่องรถยนต์เท่าใดนัก ซึ่งพฤติกรรมบางอย่างอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเองและรถคันอื่นได้ เราลองไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง?

1.แต่งหน้าขณะขับรถ
     สิ่งที่เห็นได้เป็นประจำแทบทุกเช้าบนท้องถนน คือ คุณผู้หญิงที่แต่งหน้าไปด้วยขณะที่อยู่หลังพวงมาลัย โดยอาศัยจังหวะรถหยุดเคลื่อนตัวเพื่อเปิดกระจกแต่งหน้า ถึงแม้ว่าคุณผู้หญิงเองจะระมัดระวังเป็นอย่างดีแล้ว แต่อย่าลืมว่าบนท้องถนนยังมีผู้ขับขี่อื่นอีกมากมาย ที่อาจเผลอมาชนคุณได้ทุกเมื่อ ซึ่งอุปกรณ์แต่งหน้าทั้งหลายอาจทิ่มเข้าลูกตา จนทำให้บาดเจ็บรุนแรงได้

2.ใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถ
     การใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถจะทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกด้วยแรงเต็มฝ่าเท้าได้ถนัดนัก ในกรณีฉุกเฉินอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นจึงควรสวมรองเท้าพื้นเรียบขณะขับรถจะดีกว่า จากนั้นค่อยเปลี่ยนไปใส่รองเท้าส้นสูงเมื่อถึงจุดหมาย
202

3.วางรองเท้าหรือขวดน้ำไว้บนพื้น
     คุณผู้หญิงอาจมีรองเท้าเก็บไว้บนรถหลายคู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่บริเวณพื้นที่นั่งของผู้ขับขี่ ไม่ควรใช้วางรองเท้าหรือขวดน้ำใดๆ ซึ่งอาจไหลไปขัดกับแป้นเบรกหรือคันเร่ง ทำให้เร่งเครื่องยนต์โดยไม่ตั้งใจ หรืออาจไหลไปกองอยู่ใต้แป้นเบรก ส่งผลให้ไม่สามารถเหยียบเบรกได้ ทางที่ดีจึงควรวางรองเท้าหรือสิ่งของใดๆ ไว้บริเวณฝั่งผู้โดยสารจะดีกว่า

4.ไม่สนใจไฟเตือนบนหน้าปัด

     คุณผู้หญิงส่วนใหญ่มีความสนใจเกี่ยวกับรถยนต์น้อยกว่าผู้ชาย จึงทำให้ไม่ทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น บางครั้งแม้ว่าหน้าปัดจะแสดงข้อความเตือน หรือปรากฏไฟสัญลักษณ์ขึ้นมา แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจกับมัน เหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้ และอาจทำให้รถเสื่อมสภาพอย่างที่ไม่ควรเป็นอีกด้วย
200

5.ไม่ดูแลรถอย่างเหมาะสม
     แม้ว่าคุณผู้หญิงจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกมากนัก แต่ก็ควรนำรถเข้าเช็คระยะเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้รถยนต์ได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้ตลอดเวลา รถส่วนมากมักต้องเข้าเช็คระยะทุก 10,000 กิโลเมตร บางรุ่นอาจขึ้นไปเป็น 20,000 กิโลเมตร ดังนั้น อย่างน้อยๆ ก็ควรตรวจสอบว่ารถวิ่งไปเป็นระยะทางเท่าไหร่แล้ว จะได้นำรถเข้าศูนย์ได้ตรงเวลา

     สิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพื่อความปลอดภัยของคุณเองและคนรอบข้างครับ

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ของแถมอะไรบ้างที่ควรขอจากเซลส์เมื่อซื้อรถป้ายแดง

  

   ของแถมจากรถป้ายแดงส่วนใหญ่มีทั้งของที่มีมูลค่ามากและน้อยต่างกันไป เซลส์บางคนใช้วิธีเขียนรายการของแถมให้ดูเยอะเข้าไว้ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากว่าไปถอยรถจากดีลเลอร์เจ้าอื่น แต่บางครั้งเมื่อนำมารวมๆ กันแล้ว อาจมีมูลค่าน้อยกว่าที่ควรจะได้รับก็เป็นได้
     ขอแนะนำของแถมรถป้ายแดงที่ควรขอจากเซลส์เป็นพิเศษ ดังนี้
1.ส่วนลดเงินสด/เงินดาวน์
     ส่วนลดเงินสดหรือเงินดาวน์มักถูกเสนอให้กับรถที่มีอายุตลาดนาน หรือรถที่ใกล้เปลี่ยนโฉมเต็มที หากเป็นรถที่มีมูลค่าสูง ก็ยังสามารถต่อรองได้อีกนิดหน่อยตามสมควร แต่หากเป็นรถที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ เซลส์มักจะให้เลือกระหว่างส่วนลดหรือของแถมรายการอื่นๆ ก็ให้ค่อยๆ พิจารณาถึงความคุ้มค่าของตัวเราเองเป็นหลัก แต่หากบางที่เสนอเป็นของแถมที่เราไม่ต้องการ ก็อาจต่อรองขอเปลี่ยนเป็นส่วนลดเพิ่มดูได้
2.ฟิล์มกรองแสงคุณภาพดี
     ดีลเลอร์แทบทุกเจ้ามักแถมฟิล์มกรองแสงให้รถทุกคันอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ การเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพสูง มียี่ห้อเป็นที่รู้จักในตลาดและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ซึ่งมูลค่าของฟิล์มกรองแสงเริ่มต้นที่พันกว่าบาท ไปจนถึงหลักหมื่นก็มี ดังนั้น จึงควรสอบถามและต่อรองกับเซลส์เพื่อให้ได้ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดีที่สุด ทางที่ดีควรมีใบรับประกันจากทางร้านที่ติดตั้งให้ด้วย

3.ชุดแต่งรอบคัน (แท้)

     หากชื่นชอบความเท่ไม่ซ้ำใคร ก็สามารถพูดคุยกับเซลส์เพื่อขอรับชุดแต่งรอบคันเป็นของแถมได้ แต่จุดสำคัญ คือ ควรเลือกชุดแต่งแท้จากผู้ผลิตเป็นหลัก ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าชุดแต่งนอก และยังติดตั้งได้พอดีกับตัวรถมากกว่า แต่หากต้องการดีไซน์แปลกแหวกแนวจริงๆ ก็ควรเลือกชุดแต่งที่มีคุณภาพเสียหน่อย ทั้งวัสดุชิ้นงานและการทำสี ก็จะช่วยลดปัญหาในระยะยาวได้
4.ประกันภัยชั้น 1
     ประกันภัยชั้น 1 ที่เซลส์แถมให้นั้น ควรเป็นประกันซ่อมห้าง ไม่ใช่ซ่อมอู่ (นอกเสียจากว่ารถยี่ห้อนั่นไม่มีศูนย์ทำสีเป็นของตัวเองจริงๆ) และควรใช้บริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ จะได้ไม่เกิดปัญหาเวลาเคลมในภายหลัง
     ส่วนรายการของแถมที่ไม่แนะนำให้รับนั้น นั่นคือ การพ่นกันสนิม เนื่องจากรถใหม่ทุกคันถูกเคลือบกันสนิมมาแล้วจากโรงงาน ขณะที่การพ่นกันสนิมที่ได้รับเป็นของแถมนั้น อาจไม่ได้รับการพ่นจริง หรือพ่นไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ดังนั้น หากกังวลจริงๆ ว่ารถจะเป็นสนิม ก็ควรเลือกร้านที่ไว้ใจได้เองในภายหลังจะดีกว่าครับ
     ขณะที่ของแถมยิบย่อยอื่นๆ เช่น ผ้ายางปูพื้น, หมอน, ถังขยะ, ชิ้นส่วนโครเมียมต่างๆ ฯลฯ เหล่านี้เป็นของที่มีมูลค่าน้อย และไม่จำเป็นต้องรับก็ได้ หากสามารถแลกเปลี่ยนเป็นส่วนลดได้จะดีมากครับ
ที่มา:sanook

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561

รู้ยัง! หยุดรถทับทางม้าลายนอกจาก "ไร้น้ำใจ" แล้วยัง "ผิดกฎหมาย" ด้วย



    การหยุดรถทับทางม้าลาย นอกจากจะทำให้คนเดินถนนใช้ทางได้อย่างลำบากแล้ว ยังผิดกฎหมายมีโทษปรับอีกด้วย
     คนส่วนใหญ่มักคิดว่ารถยนต์ต้องมาก่อนคนเดินถนนเสมอ จึงทำให้เห็นภาพรถยนต์หยุดทับทางข้ามหรือทางม้าลายกันจนชินตา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เรียกได้ว่าน่ารังเกียจอย่างมาก เนื่องจากเป็นการหยุดรถขวางทางคนเดินถนน ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกและเสี่ยงอันตรายได้
01
     ปัจจุบันมีพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ควบคุมผู้ขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทางข้าม ได้แก่
     1.บังคับให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรและเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งไว้หรือทำให้ปรากฏในทาง (มาตรา 21) มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งในที่นี้สามารถบังคับใช้ในกรณีไม่หยุดรถตามสัญญาณไฟสีแดง เพื่อให้คนเดินถนนข้ามไปก่อน
     2.ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางข้าม และเมื่อเข้าที่คับขันหรือเขตปลอดภัย (มาตรา 46) ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 400 - 1,000 บาท
     3.ห้ามมิให้ผู้ขับขี่จอดรถในทางข้ามหรือในระยะ 3 เมตรจากทางข้าม (มาตรา 57) ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 บาท
     นอกจากข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการใช้ทางข้ามแล้วนั้น หากหยุดรถขับทางข้ามยังเป็นการแสดงถึงความแล้งน้ำใจต่อผู้ร่วมทางอีกด้วย
ที่มา:sanook