วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

10 อ็อพชั่นไม่จำเป็นในรถรุ่นท็อป ไม่มีก็ไม่เสียหาย


     รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็มีหลายอ็อพชั่นที่เราไม่จำเป็นต้องเพิ่มเงินซื้อรถรุ่นท็อปเพื่อให้ได้มันมาใช้งาน จึงขอแนะนำ 10 อ็อพชั่นไม่จำเป็นในรถรุ่นท็อป ไม่ใช้ก็ไม่เสียหายอะไร
107
1.กุญแจ Keyless Entry + ปุ่มสตาร์ท
     กุญแจแบบ Keyless Entry ทำงานควบคู่กับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ แทบจะกลายเป็นอ็อพชั่นมาตรฐานของรถตั้งแต่ระดับอีโคคาร์ขึ้นมา ซึ่งแม้ว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายขึ้นได้ แต่หากจำเป็นต้องกัดฟันซื้อรถรุ่นที่แพงกว่าเพื่อให้ได้มา ก็อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่นัก เพราะลำพังกุญแจรีโมทธรรมดาๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

104
2.ระบบนำทาง
     แม้ว่าระบบนำทางจะเป็นอ็อพชั่นที่ดี แต่ปัจจุบันมันกลับถูกแทนที่ด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถืออย่าง Google Maps ไปเสียแล้ว เนื่องจากแผนที่จะถูกอัพเดตอยู่ตลอดเวลา จับสัญญาณได้รวดเร็ว สามารถดูข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ได้ แถมยังมีตำแหน่งสถานที่ใหม่ๆ (Points Of Interest - POI) เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่ใครหลายคนวางใจเลือกใช้กูเกิลแมพในการนำทางแทน

100
3.ระบบ Engine Start/Stop
     ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน Engine Start/Stop จะช่วยดับเครื่องยนต์ชั่วคราวอัตโนมัติเมื่อจอดติดไฟแดง และจะสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้งเมื่อปล่อยเบรก ซึ่งไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพอากาศและจราจรในบ้านเรา เพราะทุกครั้งที่เครื่องยนต์ดับ คอมเพรสเซอร์แอร์จะไม่ทำงาน ทำให้ห้องโดยสารอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว จนบ้างครั้งแทบจะหายใจไม่ออก อีกทั้งการจราจรแบบขยับตัวได้ทีละนิดๆ จะทำให้เครื่องยนต์ดับและสตาร์ทบ่อยกว่าปกติ อาจส่งผลต่อไดสตาร์ทและระบบไฟในรถได้ในระยะยาว

102
4.เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส
     คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสเป็นอ็อพชั่นที่ใครหลายคนถวิลหา แต่หน้าจอแบบสัมผัสนี่แหละที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากผู้ขับขี่ต้องละลายตาเพื่อมองหน้าจอขณะกดสั่งงาน ต่างจากเครื่องเสียงแบบปุ่มธรรมดา ที่ยังพออาศัยความชินในการคลำหาปุ่มได้ ทางที่ดีหน้าจอสัมผัสควรมาพร้อมปุ่มสั่งงานแยกต่างหาก เช่น ปุ่ม iDrive ในรถ BMW, แป้นทัชแพดระบบ COMAND ในรถ Mercedes-Benz หรือปุ่ม Center Commander ของ Mazda เป็นต้น
     นอกจากนี้ หากเป็นหน้าจอสัมผัสในรถราคาต่ำๆ หน่อย มักมีการแสดงผลไม่ค่อยสวยงาม ตอบสนองช้า และอาจไม่มีฟังก์ชั่นมากมายอย่างที่คิด

103

5.เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนัง (เทียม)
     เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์แม้ว่าจะทำให้รถดูดีมีราคาไม่แพ้เบาะหนังแท้ แต่ก็มีข้อเสียเรื่องการอมความร้อน โดยเฉพาะบ้านเราที่ต้องเจอแดดแรงๆ เป็นประจำ ซึ่งเบาะผ้าจะช่วยตัดปัญหานี้ได้ แต่ถึงอย่างไร เบาะผ้าก็มีข้อเสียบางอย่างเช่นกัน อาทิ สะสมฝุ่น, เก็บความชื้น, เลอะง่าย ฯลฯ

106
6.เบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้า
     เบาะนั่งปรับไฟฟ้ามักอยู่ในรถราคาแพงๆ แต่ก็ใช่ว่ามันจำเป็นเสมอไป เพราะเบาะธรรมดาๆ ก็สามารถปรับได้ตามใจ แถมยังไม่มีกลไกมอเตอร์ไฟฟ้าให้เสียในอนาคตอีกด้วย

101
7.ชุดแต่งรอบคัน
     ชุดแต่งภายนอกแม้ว่าจะช่วยให้รถดูเท่มากขึ้น แต่แทบไม่มีผลใดๆ ต่อการขับขี่เลย (แถมยังจะทำให้รถมีน้ำหนักเพิ่มเสียด้วยซ้ำ) อันนี้ถือว่าแต่งมาให้คนภายนอกดูล้วนๆ

109
8.ระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า
     ระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้ามักติดตั้งเป็นอ็อพชั่นในรถแพงๆ เช่นกัน แต่จุดประสงค์หลักของที่ฉีดน้ำล้างไฟหน้านั้น มักใช้สำหรับการละลายหิมะในเมืองหนาวเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากน้ำในถังพักมีความอุ่นพอจะสลายหิมะที่เกาะตัวอยู่กับไฟหน้าได้ ขณะที่ประสิทธิภาพการล้างฝุ่นโคลนกลับไม่มากมายขนาดนั้น

108
9.ช่วงล่างแบบถุงลม
     ช่วงล่างแบบถุงลม (Air Suspenion) จัดว่าเป็นช่วงล่างระดับเทพที่ช่วยให้รถนุ่มสบายราวกับนั่งพรมวิเศษ แต่หากเสียขึ้นมา ก็อาจต้องช็อคกับค่าซ่อมที่แพงมหาโหดระดับหลายหมื่นบาท แถมยังเป็นระบบที่มีความซับซ้อนกว่าช่วงล่างปกติมาก ที่ต้องอาศัยการซ่อมโดยศูนย์บริการเพียงอย่างเดียว

105
10.ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
     ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีประโยชน์หลักๆ อยู่ที่การขับขี่แบบออฟโรด ซึ่งแลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะขับออนโรดหรือออฟโรด เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และกลไลขับสี่แบบฟูลไทม์ในรถบางรุ่น ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องนำรถไปลุยทางออฟโรด ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรถขับเคลื่อนสี่ล้อมาใช้
ที่มา:sanook

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ไม่เสียรู้! รถไดสตาร์ทพัง หรือแค่ถ่านเสื่อม


     เรื่องอาการเสียของระบบชิ้นส่วนรถยนต์หากเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วก็ถึงวาระต้อง “ซ่อม” หรือ “เปลี่ยน” ตามอายุการใช้งาน เมื่อรถคุณเริ่มเสื่อมสภาพก็ต้องฟื้นฟูกันหน่อยเพื่อให้รถที่คุณรักใช้งาน ได้อีกยาวนาน และหากรถเกิดปัญหาก็ต้องเลือกช่างที่ไว้ใจได้ตีราคาค่าซ่อมสมเหตุสมผลไม่เอา เปรียบผู้บริโภค เพราะบางอย่างแค่เปลี่ยนชิ้นส่วนเล็กๆก็กลับมาใช้งานได้ปกติดังเดิมบางอย่าง ราคาแค่หลักร้อยบาทด้วยซ้ำไป
     สำหรับรถที่ใช้งานมาได้สักระยะ ไดสตาร์ท หรือ มอเตอร์สตาร์ท เป็นอีกชิ้นส่วนที่มักเกิดปัญหา อาการรถสตาร์ทติดยาก หรือรถสตาร์ทไม่ติด บางครั้งอาจไม่ใช่เพราะแบตเตอรี่รถยนต์อาจเกิดจากไดสตาร์ทก็เป็นได้ ต้องให้ช่างค่อยๆไล่หาสาเหตุ

เช็กปัญหาไดสตาร์ทที่พบบ่อย
    1. ไดสตาร์ทหมุนแต่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ให้ตรวจสอบ ชุดออโตเมติก ชุดเฟือง และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
    2. ไดสตาร์ทหมุนด้วยรอบปกติ แต่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ และสตาร์ทติดยาก อาการมักเกิดปัญหาตอนเช้า ให้ตรวจสอบที่ระบบปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบไฟจุดระเบิด
    3. ไดสตาร์ทหมุนอืดหรือไม่หมุนเลย ให้ตรวจสอบแรงดันไฟที่แบตเตอรี่หากแรงดันปกติแสดงว่า “แปรงถ่าน” (Carbon Brush) หมดอายุซึ่งปัญหานี้มักเป็นกันบ่อยถ้าไปทำอู่นอกก็ให้ช่างซื้อแปรงถ่านมา เปลี่ยนให้ใหม่ราคาประมาณหลักร้อย แต่ถ้าเข้าศูนย์บริการส่วนมากจะไม่ซ่อมให้ต้องเบิกของใหม่เท่านั้น เพราะศูนย์บริการจะไม่มีนโยบายซ่อม ราคาก็จะแพงขึ้นตามยี้ห้อรถที่คุณใช้
     สำหรับไดสตาร์ทที่บอกว่าพัง อาจจะเป็นแค่แปรงถ่านหมด ซื้อมาเปลี่ยนใหม่ก็ใช้ได้อีกนานราคาไม่แพง ไม่ต้องเสียเงินหลายพันเปลี่ยนไดสตาร์ทใหม่ อาการแบบนี้ช่างที่มีความชำนาญที่สุดคือช่างซ่อมไดนาโมแก้ไขได้ไม่ยาก

วิธีบำรุงรักษาไดสตาร์ท
    1. ขณะที่บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วควรปล่อยมือทันที ห้ามบิดแช่ไว้เพราะจะทำให้ไดสตาร์ทไหม้
    2. ไม่ควรมีคราบน้ำมันและฝุ่นละออง เกาะเคลือบอยู่ที่ตัวไดสตาร์ท เพราะอาจจะทำให้สิ่งสกปรก เข้าไดสตาร์ท จนแปรงถ่านสกปรก ไม่หมุนหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
    3. ห้ามไม่ให้มีน้ำเข้าไดสตาร์ท เพราะจะทำให้แปรงถ่านขัดตัว ไดสตาร์ทไม่หมุน อุปกรณ์ภายในเป็นสนิมและเสียหายได้
     ทั้งหมดนี้ผู้อ่านน่าจะพอทราบสาเหตุเบื้องต้นอาการไดสตาร์ทเสีย ปัญหาอาจแค่แปรงถ่านหมดอายุเท่านั้น ต้องให้ช่างผู้ชำนาญเช็กดูให้ดีและควรมีการตีราคาก่อนลงมือซ่อมทุกครั้ง
ที่มา:sanook

วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วิธีขจัดคราบน้ำ-คราบหินปูน บนกระจกรถยนต์

   

 บางคนอาจคิดว่า ปัญหาคราบน้ำเกาะติดแน่นบนกระจก เป็นเพียงปัญหาเล็กๆ แค่ล้างรถ และเช็ดออกก็พอแล้ว
     แต่คราบน้ำที่ว่านี้ บางครั้งมันอาจมี คราบหินปูน ปนเปื้อนมาด้วย ทำให้เมื่อจอดรถทิ้งไว้แล้วโดนแดดเผานานๆ น้ำที่มีอยู่ก็จะระเหยไป หลงเหลือไว้เพียงคราบหินปูนที่เกาะติดแน่นทนนาน ต่อให้ใช้ใบปัดน้ำฝนก็ปัดไม่ออก หรือแม้กระทั่งนำรถเข้าคาร์แคร์เพื่อไปขัดเคลือบสี คราบหินปูนก็ยังไม่หลุดออกไป เห็นแล้วขัดหูขัดตาสุดๆ แถมมันยังทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลงอีกด้วย
     ซึ่งวิธีที่จะขจัดคราบน้ำ-คราบหินปูนบนกระจกให้หายไป และได้ผล มีอยู่ดังนี้
     1. ในกรณีที่คราบยังไม่ติดแน่นมาก หรือเพิ่งเกิดคราบ ให้ใช้น้ำส้มสายชูหยดใส่สำลี หรือผ้าสะอาด แล้วค่อยๆ ขัด-เช็ดทำความสะอาด
     2. ในกรณีที่คราบติดแน่นมาก ติดลึก และฝังแน่น ฯลฯ ลองใช้วิธีแรกแล้วก็ไม่ออก ให้เปลี่ยนมาใช้กรดเกลือ หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ ที่มีส่วนผสมของกรดเกลืออย่างน้อย 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ (อย่าให้เกินนี้) และควรสวมถุงมือยางป้องกันในการทำความสะอาดด้วย นอกจากนี้ควรระวังอย่าให้เข้าตา และอย่าให้น้ำยาล้างห้องน้ำสัมผัสกับตัวรถ ขอบยาง และส่วนอื่นๆ ของรถยนต์เด็ดขาด เพราะมันอาจไปกัดกร่อน และสร้างความเสียหายให้แก่รถยนต์ของคุณได้


     (หากเจอคราบที่ติดแน่นมากจริงๆ ให้ใช้ใบมีดโกนค่อยๆ ขูดคราบหินปูนออกมาก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้น้ำยาล้างห้องน้ำขัด-เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง)
     สุดท้ายนี้ หากไม่มั่นใจ หรือกลัวใช้น้ำยาล้างห้องน้ำแล้วจะโดนส่วนอื่นๆ ของรถยนต์ ให้ไปหาซื้อน้ำยาขจัดคราบน้ำบนกระจกรถโดยเฉพาะมาใช้งานแทน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ก็มีขายกันเยอะแยะ นอกจากนี้คุณควรเคลือบกระจกหลังทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อจะได้ป้องกันการเกิดคราบน้ำ-คราบหินปูนในครั้งต่อไปนั่นเอง
ที่มา:sanook

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

แต่งรถต้องไม่กาก! "ไฟไอติม" มีความผิดตามกฎหมายปรับอ่วม 2,000 บาท

  

   ไฟไอติม หรือไฟหรี่ที่มีลักษณะเป็นสีฟ้าผิดแปลกไปจากเดิม แม้ไม่ได้ฆ่าใคร แต่มีความผิดทางกฎหมาย มีโทษปรับถึง 2,000 บาท
     บรรดารถแต่งในปัจจุบันนิยมติดตั้งไฟส่องสว่างที่เรืองแสงออกมาเป็นสีฟ้า ซึ่งบ้างก็อ้างว่าเป็นสัญลักษณ์ของรถแต่งที่ต้องมีไว้ แถมบางคนถึงขั้นกับกล่าวว่าไฟลักษณะนี้ไม่ได้ไปทำร้ายใคร เพราะมันก็แค่หลอดไฟดวงหนึ่งเท่านั้นเอง
     ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ไฟสีฟ้าอาจทำให้รู้สึกปวดหัวหากจ้องเป็นระยะเวลานานๆ เพราะแสงสีฟ้าสามารถทะลุทะลวงได้ถึงจอประสาทตา ทำให้สามารถทำลายจอประสาทตาได้มากกว่าแสงสีอื่นๆ (จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีฟีเจอร์บนสมาร์ทโฟนที่สามารถกรองแสงสีฟ้ายามค่ำคืน หรือฟิล์มกันรอยที่มีคุณสมบัติกรองแสงสีฟ้าได้)
02

     ในด้านกฎหมาย การดัดแปลงไฟท้ายเป็นสีอื่นนอกจากสีแดงและสีเหลืองอำพัน มีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
     นอกจากนั้น การติดตั้งไฟเบรกแบบกะพริบก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน เนื่องจากกฎหมายระบุไว้ว่าโคมไฟหยุดที่ติดตั้งด้านท้าย จะต้องเป็นแสงสีแดงสม่ำเสมอคงที่ ไม่กะพริบเท่านั้น
ที่มา:sanook

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

วิธีจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ง่ายๆ ไม่ถึง 5 นาที

   

  ปัจจุบันผู้ที่ต้องการจองหมายเลขทะเบียน สามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบกได้ ซึ่งวิธีการจองก็ง่ายดาย เพียง 5 นาทีก็เสร็จแล้ว
     ประเภทรถที่สามารถทำการจองเลขทะเบียนออนไลน์ ได้แก่ รถเก๋ง, รถกระบะ 4 ประตู, รถกระบะ และรถตู้ โดยจะเปิดบริการจองเลขตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น. และสามารถตรวจสอบตารางจองเลขได้ที่ปุ่ม "ตารางเปิดรับจองเลข และ หลักเกณฑ์การจองเลข" ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน
     ในกรณีรถใหม่ จะต้องได้รับรถยนต์แล้วจึงจะจองเลขทะเบียนได้
     ในกรณีรถจดทะเบียนแล้ว จะต้องเป็นรถที่จดทะเบียนกรุงเทพมหานคร และสถานะปกติเท่านั้น

เงื่อนไขการจองทะเบียนรถยนต์
     1.สามารถจองได้ครั้งละ 1 หมายเลข และสามารถใส่ใหม่จนกว่าจะจองได้
     2.สามารถตรวจสอบวันจดทะเบียนได้ที่ตารางจองเลข "ปัจจุบันจดทะเบียนถึงเลข" หากถึงเลขทะเบียนและกลุ่มหมวดที่ทำการจองไว้แล้ว ก็สามารถจดทะเบียนได้ แต่ต้องจดทะเบียนก่อนวันที่กำหนด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว สิทธิในหมายเลขจะตกไป
     3.เมื่อจองเลขทะเบียนได้แล้ว จะสามารถจองเลขทะเบียนได้อีกครั้งภายหลังจาก 3 เดือน
     4.จะต้องจดทะเบียนรถยนต์ด้วยชื่อที่จองได้เท่านั้น ไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเป็นชื่อผู้อื่นได้ และรถที่นำมาจดทะเบียนจะต้องมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองเป็นชื่อเดียวกับที่จองได้
     5.ผู้ถือสัญชาติไทย จะต้องระบุเลขบัตรประชาชนในการจองเท่านั้น
     6.หากชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน ไม่ตรงตามบัตรประชาชน จะถือว่าไม่ใช่บุคคลเดียวกัน ไม่สามารถนำเลขไปจดทะเบียนได้
     7.คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง (1 IP Address) สามารถจองได้เลขเดียวในวันนั้นๆ
     ทั้งนี้ หมายเลขสวยสำหรับการประมูลจำนวน 301 หมายเลขจะไม่สามารถจองได้

ก่อนเริ่มทำการจองควรเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้ให้พร้อม
     1.เลขบัตรประชาชน หรือทะเบียนการค้า หรือเลขหนังสือเดินทาง
     2.หมายเลขตัวถังรถ
ขั้นตอนการจองเลขทะเบียน มีดังนี้
     1.เข้าไปยังเว็บไซต์ http://www.tabienrod.com จากนั้นเลือกปุ่ม "จองเลขทะเบียนรถ"
202


     3.เลือกปุ่ม "เข้าระบบจองเลขทะเบียน"
203

     4.อ่านหลักเกณฑ์การจองเลขทะเบียนผ่านอินเตอร์เน็ตให้รอบคอบ แล้วจึงกดปุ่ม "ยอมรับหลักเกณฑ์"
200


     5.เลือกประเภทรถที่จะทำการจอง ระบบจะแสดงข้อมูลชุดหมายเลขที่จองได้ในขณะนั้น
206

     6.กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย แล้วใส่เลขทะเบียนที่ต้องการ
207

     7.เมื่อจองทะเบียนสำเร็จ จะปรากฏดังตัวอย่างในภาพ
03
     จากนั้นให้รอจนถึงวันเลขเปิดจองตามตารางที่จองไว้ จึงจะสามารถทำเรื่องจดทะเบียนได้ภายใน 60 วัน นับจากกำหนดให้จดทะเบียน
ที่มา:sanook

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

5 พฤติกรรมอันตรายของผู้หญิงขณะขับรถ


     คุณผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะสันทัดเรื่องรถยนต์เท่าใดนัก ซึ่งพฤติกรรมบางอย่างอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเองและรถคันอื่นได้ เราลองไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง?

1.แต่งหน้าขณะขับรถ
     สิ่งที่เห็นได้เป็นประจำแทบทุกเช้าบนท้องถนน คือ คุณผู้หญิงที่แต่งหน้าไปด้วยขณะที่อยู่หลังพวงมาลัย โดยอาศัยจังหวะรถหยุดเคลื่อนตัวเพื่อเปิดกระจกแต่งหน้า ถึงแม้ว่าคุณผู้หญิงเองจะระมัดระวังเป็นอย่างดีแล้ว แต่อย่าลืมว่าบนท้องถนนยังมีผู้ขับขี่อื่นอีกมากมาย ที่อาจเผลอมาชนคุณได้ทุกเมื่อ ซึ่งอุปกรณ์แต่งหน้าทั้งหลายอาจทิ่มเข้าลูกตา จนทำให้บาดเจ็บรุนแรงได้

2.ใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถ
     การใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถจะทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกด้วยแรงเต็มฝ่าเท้าได้ถนัดนัก ในกรณีฉุกเฉินอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นจึงควรสวมรองเท้าพื้นเรียบขณะขับรถจะดีกว่า จากนั้นค่อยเปลี่ยนไปใส่รองเท้าส้นสูงเมื่อถึงจุดหมาย
202

3.วางรองเท้าหรือขวดน้ำไว้บนพื้น
     คุณผู้หญิงอาจมีรองเท้าเก็บไว้บนรถหลายคู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่บริเวณพื้นที่นั่งของผู้ขับขี่ ไม่ควรใช้วางรองเท้าหรือขวดน้ำใดๆ ซึ่งอาจไหลไปขัดกับแป้นเบรกหรือคันเร่ง ทำให้เร่งเครื่องยนต์โดยไม่ตั้งใจ หรืออาจไหลไปกองอยู่ใต้แป้นเบรก ส่งผลให้ไม่สามารถเหยียบเบรกได้ ทางที่ดีจึงควรวางรองเท้าหรือสิ่งของใดๆ ไว้บริเวณฝั่งผู้โดยสารจะดีกว่า

4.ไม่สนใจไฟเตือนบนหน้าปัด

     คุณผู้หญิงส่วนใหญ่มีความสนใจเกี่ยวกับรถยนต์น้อยกว่าผู้ชาย จึงทำให้ไม่ทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น บางครั้งแม้ว่าหน้าปัดจะแสดงข้อความเตือน หรือปรากฏไฟสัญลักษณ์ขึ้นมา แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจกับมัน เหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ได้ และอาจทำให้รถเสื่อมสภาพอย่างที่ไม่ควรเป็นอีกด้วย
200

5.ไม่ดูแลรถอย่างเหมาะสม
     แม้ว่าคุณผู้หญิงจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกมากนัก แต่ก็ควรนำรถเข้าเช็คระยะเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้รถยนต์ได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้ตลอดเวลา รถส่วนมากมักต้องเข้าเช็คระยะทุก 10,000 กิโลเมตร บางรุ่นอาจขึ้นไปเป็น 20,000 กิโลเมตร ดังนั้น อย่างน้อยๆ ก็ควรตรวจสอบว่ารถวิ่งไปเป็นระยะทางเท่าไหร่แล้ว จะได้นำรถเข้าศูนย์ได้ตรงเวลา

     สิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพื่อความปลอดภัยของคุณเองและคนรอบข้างครับ

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ของแถมอะไรบ้างที่ควรขอจากเซลส์เมื่อซื้อรถป้ายแดง

  

   ของแถมจากรถป้ายแดงส่วนใหญ่มีทั้งของที่มีมูลค่ามากและน้อยต่างกันไป เซลส์บางคนใช้วิธีเขียนรายการของแถมให้ดูเยอะเข้าไว้ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากว่าไปถอยรถจากดีลเลอร์เจ้าอื่น แต่บางครั้งเมื่อนำมารวมๆ กันแล้ว อาจมีมูลค่าน้อยกว่าที่ควรจะได้รับก็เป็นได้
     ขอแนะนำของแถมรถป้ายแดงที่ควรขอจากเซลส์เป็นพิเศษ ดังนี้
1.ส่วนลดเงินสด/เงินดาวน์
     ส่วนลดเงินสดหรือเงินดาวน์มักถูกเสนอให้กับรถที่มีอายุตลาดนาน หรือรถที่ใกล้เปลี่ยนโฉมเต็มที หากเป็นรถที่มีมูลค่าสูง ก็ยังสามารถต่อรองได้อีกนิดหน่อยตามสมควร แต่หากเป็นรถที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ เซลส์มักจะให้เลือกระหว่างส่วนลดหรือของแถมรายการอื่นๆ ก็ให้ค่อยๆ พิจารณาถึงความคุ้มค่าของตัวเราเองเป็นหลัก แต่หากบางที่เสนอเป็นของแถมที่เราไม่ต้องการ ก็อาจต่อรองขอเปลี่ยนเป็นส่วนลดเพิ่มดูได้
2.ฟิล์มกรองแสงคุณภาพดี
     ดีลเลอร์แทบทุกเจ้ามักแถมฟิล์มกรองแสงให้รถทุกคันอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ การเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพสูง มียี่ห้อเป็นที่รู้จักในตลาดและได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ซึ่งมูลค่าของฟิล์มกรองแสงเริ่มต้นที่พันกว่าบาท ไปจนถึงหลักหมื่นก็มี ดังนั้น จึงควรสอบถามและต่อรองกับเซลส์เพื่อให้ได้ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดีที่สุด ทางที่ดีควรมีใบรับประกันจากทางร้านที่ติดตั้งให้ด้วย

3.ชุดแต่งรอบคัน (แท้)

     หากชื่นชอบความเท่ไม่ซ้ำใคร ก็สามารถพูดคุยกับเซลส์เพื่อขอรับชุดแต่งรอบคันเป็นของแถมได้ แต่จุดสำคัญ คือ ควรเลือกชุดแต่งแท้จากผู้ผลิตเป็นหลัก ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าชุดแต่งนอก และยังติดตั้งได้พอดีกับตัวรถมากกว่า แต่หากต้องการดีไซน์แปลกแหวกแนวจริงๆ ก็ควรเลือกชุดแต่งที่มีคุณภาพเสียหน่อย ทั้งวัสดุชิ้นงานและการทำสี ก็จะช่วยลดปัญหาในระยะยาวได้
4.ประกันภัยชั้น 1
     ประกันภัยชั้น 1 ที่เซลส์แถมให้นั้น ควรเป็นประกันซ่อมห้าง ไม่ใช่ซ่อมอู่ (นอกเสียจากว่ารถยี่ห้อนั่นไม่มีศูนย์ทำสีเป็นของตัวเองจริงๆ) และควรใช้บริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ จะได้ไม่เกิดปัญหาเวลาเคลมในภายหลัง
     ส่วนรายการของแถมที่ไม่แนะนำให้รับนั้น นั่นคือ การพ่นกันสนิม เนื่องจากรถใหม่ทุกคันถูกเคลือบกันสนิมมาแล้วจากโรงงาน ขณะที่การพ่นกันสนิมที่ได้รับเป็นของแถมนั้น อาจไม่ได้รับการพ่นจริง หรือพ่นไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ดังนั้น หากกังวลจริงๆ ว่ารถจะเป็นสนิม ก็ควรเลือกร้านที่ไว้ใจได้เองในภายหลังจะดีกว่าครับ
     ขณะที่ของแถมยิบย่อยอื่นๆ เช่น ผ้ายางปูพื้น, หมอน, ถังขยะ, ชิ้นส่วนโครเมียมต่างๆ ฯลฯ เหล่านี้เป็นของที่มีมูลค่าน้อย และไม่จำเป็นต้องรับก็ได้ หากสามารถแลกเปลี่ยนเป็นส่วนลดได้จะดีมากครับ
ที่มา:sanook